บริการคำนวณจำนวนหลังคาและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ออกแบบห้องครัวให้ทันสมัย ใช้งานสะดวก
เห็นภาพจริงก่อนลงกระเบื้อง หมดกังวงเรื่องกระเบื้องไม่เข้ากัน
ผสมสีได้ตามใจคุณ มีให้เลือกมากกว่าหมื่นเฉดสี
January 30, 2024
วันนี้ (30 ม.ค.2567) พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยกรณีพบศพ นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ สภาพมือ-เท้าถูกมัดด้วยเชือกแดง ทิ้งพงหญ้าข้างทางติดกำแพงรั้วมอเตอร์เวย์ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร พื้นที่ ม.10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้อยู่ระหว่างสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เร่งหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ พร้อมเรียกตัวภรรยา หัวหน้างาน และ เพื่อนผู้ตายมาสอบปากคำ เบื้องต้นได้เบาะแสจากภรรยาว่า หลังผู้ตายหายตัวไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่เฟซบุ๊กผู้ตายกลับมีการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ และมีการเคลื่อนไหว และตอบกลับว่าทำผู้หญิงท้อง ขอเลิกไม่ต้องเจอกันอีก จากนั้นก็ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมีคนพบศพเมื่อวานนี้ นายจำเริญ หลักแหลม พ่อตาผู้เสียชีวิตวัย 64 ปี ยืนยันว่า ผู้ตายเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน และ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน หลายคนยังตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ พ.ต.ท.อำนาจ ยิ้มเนียม รอง ผกก.สภ.บางปะกง บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า รถจักรยานยนต์ผู้ตายจอดที่ไหน หรือใครเอาไป ทั้งที่ปกติต้องจอดที่ลานจอดริม ถ.เทพรัตน หรือ ถ.บางนา-ตราด กม.12 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดตั้งแต่ผู้ตายออกจากบ้าน และไปถึงจุดที่คอยรถรับส่งพนักงาน ส่วนจุดพบศพไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้การติดตามค่อนยากลำบาก ขณะเดียวกันมีข้อมูลว่า จากการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตาย ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่ที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 ย่าน ถ.บางนา-ตราด ก่อนข้ามสะพานไปขึ้นรถรับส่งพนักงาน ส่วนผลชันสูตรศพยังไม่แน่ชัดว่า รอยที่หน้าผากเป็นกระสุนปืนหรือไม่ ขณะนี้สอบพยานไปแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ปาก ส่วนสาเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดๆทิ้งรวมถึงประเด็นชู้สาว และ ฆ่าชิงทรัพย์ ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ภรรยาและญาติได้รับศพนายธนาสันต์กลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองปลัดเปรียง ย่าน ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยกำหนดสวดอภิธรรมศพ 5 คืน อ่าน : ตร.แจ้งข้อหา "พยายามฆ่า-พกอาวุธ" แก๊งแทงอริต่างสถาบันดับ เด้ง "เจ๋ง ดอกจิก" พ้นที่ปรึกษาประธาน กมธ.กิจการศาลฯ
วันนี้ (30 ม.ค.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 3 ใน 9 คนที่ถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น จากกรณีกลุ่มนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถูกกลุ่มคู่อริแทงเสียชีวิต พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหา ทราบว่ามีการซุกซ่อนอาวุธไว้ในรองเท้า เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของตำรวจ ในกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักศึกษา 2 คน ส่วนอีก 7 คนพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ผบช.น. ระบุว่า กลุ่มนักศึกษาของทั้ง 2 สถาบันพยายามสร้างโลกเสมือนขึ้นมา ชักชวนคนที่พ้นสภาพและรุ่นน้องมาก่อเหตุ สร้างค่านิยมผิดๆ มีการเปิดเซฟเฮาส์นัดรวมตัวกันรับน้อง ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและนิติวิทยาศาสตร์ จนนำไปสู่การออกหมายจับและเปิดปฏิบัติการไล่ล่าทั้งหมด 7 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว โดยจำนวนนี้พบ 1 คนยังเป็นนักศึกษา คือ นายณัฐพร ส่วนอีก 2 คนพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว เบื้องตันแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ พร้อมย้ำเตือนว่าหากใครให้ความช่วยเหลือหรือที่ซ่อน จะเข้าข่ายมีความผิด รอง ผบช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับการประสานจาก ผกก.สน.ปทุมวัน ว่า ทนายความของผู้ต้องหาที่เหลือแจ้งว่าจะเข้ามามอบตัวในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. แต่ตำรวจก็จะเดินหน้าติดตามจับกุมต่อไป นอกจากนี้จากการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มนักเรียนที่มีพฤติกรรมเลียนแบบด้วย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบก็จะดำเนินคดีทั้งหมดเช่นกัน โดยผู้บังคับบัญชาได้ประสานให้ทุกสถานีตำรวจคุมเข้มความปลอดภัย ป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน อ่านข่าว : ตร.ตรวจค้นอาวุธ-สิ่งผิดกฎหมาย "อุเทนถวาย" เฝ้าระวังเหตุรุนแรง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังกล่าวถึงผลการตรวจค้นในวันนี้ (30 ม.ค.) เจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นกล่องมีดและอาวุธมีดที่ซ่อนในรองเท้า โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ มูลเหตุจูงใจในการลงมือทราบว่ามาจากการรวมตัวกันแล้วผ่านไปยังสถาบันฝั่งตรงข้าม จึงต้องการแสดงตัวตนด้วยพฤติกรรมยั่วยุ ก่อนที่ฝั่งของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในสถาบันจะพบเห็น จึงออกมาดูและเกิดเหตุทะเลาะวิวาทดังกล่าว เมื่อสืบสวนพบพฤติการณ์ของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 สถาบันพบว่ามีความคล้ายคลึงกัน เช่น การเปิดเซฟเฮาส์ โดยใช้เงินจากการลงขันกันและอยู่รวมกลุ่มกันไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งการกระทำนี้อาจเป็นสิ่งที่รุ่นพี่สอนกันมาให้ป้องกันตัวเอง ขณะเดินทางกลับระหว่างสถาบันศึกษาและที่พัก ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านักเรียนของอีกสถาบันเตรียมที่จะก่อเหตุเอาคืนนั้น รอง ผบช.น. ระบุว่า ในวันที่ 1 ก.พ.นี้จะเป็นวันสถาปนาของสถาบันอุเทนถวายฯ เบื้องต้นตำรวจเตรียมมาตรการรองรับดูแลความปลอดภัยและการตรวจค้น ซึ่งตำรวจจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นักเรียนตีกันกลางเมือง อ่านข่าวอื่นๆ สั่งสอบปมฉาว "ตร.ล่วงละเมิด" เด็กม.5 แลกค่าปรับใบขับขี่ รวบตีนแมวยกเค้าบ้าน "นักปั้นดารา" ฉกแบรนด์เนมกว่า 2 ล้านบาท จับมิจฉาชีพอ้างโครงการหลวง หลอก ปชช.ลงทุน เสียหาย 269 ล้าน
อาจไม่ผิดนัก ถ้าจะพูดว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กองทัพเมียนมากำลังตกที่นั่งลำบาก หลังจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ จับมือเปิดปฏิบัติการโจมตีและยึดพื้นที่ควบคุมของกองทัพ โดยเฉพาะในจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ จุดนี้ซ้ำเติมสถานการณ์รุนแรงจากการโจมตีของกลุ่มต่อต้านรัฐประหาร อย่างกองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ PDF ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลทหารเมียนมา ยอมส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้ เมียนมาปรับท่าทีส่งตัวแทนร่วมวงประชุมอาเซียน มาลา ตาน ไท รักษาการปลัดกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา จับมือกับ สะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศลาว ก่อนเข้าร่วมการประชุมที่เมืองหลวงพระบาง โดยวิกฤตเมียนมายังคงเป็นประเด็นหารือหลักในการประชุมรอบนี้ นอกเหนือจากสถานการณ์ร้อนในทะเลจีน ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศลาวชี้ถึงสัญญาณเชิงบวกจากการที่เมียนมาส่งผู้แทนเข้าร่วมพูดคุยในวงประชุมอาเซียนรอบนี้ แม้จะยอมรับว่า การแก้ปัญหาความขัดแย้ง ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน นี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อปี 2021 ที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมาเข้าร่วมการประชุมอาเซียน หลังจากประธานอาเซียน นับตั้งแต่บรูไน เป็นต้นมา หรือแม้กระทั่งกัมพูชา งัดมาตรการกร้าว ไม่เชิญผู้แทนทางการเมืองเข้าร่วมการประชุมระดับสูง แต่จะยอมให้ผู้แทนที่ไม่ได้มาจากฝ่ายการเมืองเข้าร่วมได้ ซึ่งถูกรัฐบาลทหารปฏิเสธมาโดยตลอด มาลา ตาน ไท รักษาการปลัดกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา (ชุดเหลือง) ขณะเข้าร่วมประชุมอาเซียน ขณะที่ความพยายามของอินโดนีเซียในการเข้าพูดคุยกับคู่ขัดแย้งในเมียนมามากกว่า 180 ครั้ง เมื่อปีที่แล้วก็ยังไม่เห็นผล ดังนั้นเมื่อประเมินจากสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำของกองทัพเมียนมาในตอนนี้ อาจพูดได้ว่า รัฐบาลทหารอาจจะอยากหันหน้าเข้าหากลุ่มประเทศที่พอจะเป็นมิตรด้วยได้ ซึ่งถ้าไม่ทำตอนนี้และรอมาเลเซียเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า การพูดคุยอาจจะทำได้ยากมากยิ่งขึ้นแถลงการณ์ประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้ ชี้ชัดถึงท่าทีของอาเซียนภายใต้การนำของลาว ซึ่งย้ำถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาเซียนในการแก้ไขวิกฤตเมียนมาและสนับสนุนการบังคับใช้ฉันทามติ 5 ข้อ หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างจากกรณีที่รัฐบาลไทยชุดที่แล้ว เข้าพูดคุยอย่างไม่ทางการกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย และรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ชุดรัฐบาลทหาร ทั้งๆ ที่ไทยไม่ได้เป็นประธานอาเซียนและดำเนินการนอกกรอบอาเซียน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ท่าทีของไทยอาจสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลทหารเมียนมาและไม่เหมาะสม พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ขณะที่การประชุมรอบนี้สะท้อนถึงบทบาทของไทย ซึ่งเตรียมยกระดับการให้ความช่วยเหลือเมียนมาด้านมนุษยธรรมตลอดแนวพรมแดนของ 2 ประเทศ นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารจนถึงเมื่อปลายปีที่แล้ว เมียนมาเผชิญกับเหตุรุนแรงเกือบ 29,000 ครั้ง ในพื้นที่มากกว่า 300 จุดทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเหตุปะทะมากกว่า 17,000 ครั้ง และเหตุวางระเบิดอีกมากกว่า 5,000 ครั้ง ที่น่าสนใจ คือ การโจมตีทางอากาศ ทั้งการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบและใช้โดรนโจมตี เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะนับตั้งแต่ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของการโจมตีทางอากาศทั้งหมด โดยเมื่อเดือนที่แล้วเกิดขึ้นถึง 210 ครั้งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา อลุนแก้ว กิตติคุน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศลาว เข้าพบ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ในกรุงเนปยีดอ เพียงไม่กี่วันหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนพิเศษอาเซียนด้านเมียนมา เป็นที่จับตามองว่า ลาวในฐานะพันธมิตรใกล้ชิดกับจีน จะเข้ามาขับเคลื่อนอาเซียนเพื่อแก้ไขวิกฤตเมียนมาได้มากน้อยแค่ไหน หรือในท้ายที่สุดแล้วก็อาจจะทำอะไรไม่ได้เลย หลังจากทั้งรัฐบาลทหารเมียนมา กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธและรัฐบาลจีน ออกมาประกาศความสำเร็จของการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีจีนเป็นตัวกลางเมื่อช่วงกลางเดือน แต่ผ่านมาแล้วมากกว่า 2 สัปดาห์ ข้อตกลงนั้นก็ยังไม่เป็นรูปธรรมเสียที การประท้วงในเมียนมา วันพฤหัสบดีนี้จะครบรอบ 3 ปี รัฐประหารในเมียนมาแล้ว คาดว่ารัฐบาลทหารน่าจะต่ออายุประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก และมีการคาดการณ์ด้วยว่า กว่าที่เมียนมาจะจัดการเลือกตั้งได้อาจจะเป็นในปีหน้าเลยหรือแย่กว่านั้นก็อาจจะยือเยื้อไปเรื่อยๆ อ่านข่าวอื่น : ครม.ตั้งงบฯ ปี 68 "ก.คมนาคม" วงเงิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป จิตแพทย์ห่วงสภาพจิต "เด็ก" เครียดยาว แนะหยุดบูลลีในโรงเรียน "อธิบดีกรมการข้าว" ยันวางแผนล่อซื้อ "ศรีสุวรรณ" ไม่เกี่ยวที่ปรึกษา "ธรรมนัส"
วันนี้ (30 ม.ค.2567) นายสัญญา นิลสุพรรณ สส. นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้ลงนามในหนังสือให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการแล้ว มีผลตั้งแต่วันนี้ (30 ม.ค.) ตามที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งสัญญาณหลังจากนายยศวริศ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาร่วมกับนายศรีสุวรรณ จรรยา เกี่ยวข้องกับการเรียกเงินนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท ส่วน น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.รวมไทยสร้างชาตินั้น นายสัญญา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาประธานฯ แต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำทีม ปปป.-ป.ป.ช.เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายศรีสุวรรณ จรรยา ย่านคลอง 4 ปทุมธานี หลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาร่วมกับนายยศวริศ และ น.ส.พิมณัฏฐา เรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ปปป.ปิดฉากนักร้องยืน 1 "ศรีสุวรรณ จรรยา" "ศรีสุวรรณ" พร้อม "เจ๋ง ดอกจิก-พิมณัฏฐา" ได้ประกันตัว ยันไม่ได้รีดเงิน "อธิบดีกรมการข้าว" ยันวางแผนล่อซื้อ "ศรีสุวรรณ" ไม่เกี่ยวที่ปรึกษา "ธรรมนัส"